การทำงานในด้านคอนเทนต์ประเภทวิดีโอที่ต้องบันทึกเสียงไปด้วย ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะเจอปัญหาในการด้านการบันทึกเสียง รวมถึงความไม่สะดวกบางอย่างที่เรารู้สึกว่าการทำงานด้านเสียงอาจจะยากหน่อย ๆ ในวันนี้ผมจะมาแนะนำสิ่งที่คุณจะได้รับ เมื่อมีการบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C ครับ
เหตุผลที่ 1 : คุณภาพเสียงในการบันทึกดีขึ้นทันทีเมื่อเทียบกับไมโครโฟนที่มากับกล้อง
สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจเลยคือไมโครโฟนที่มาเดิม ๆ กับตัวกล้องนั้นอยู่ในระดับแค่พอรับได้เสียงได้ แต่ถ้าถามว่าเอามาใช้งานแบบจริงจังเลยได้ไหม ไม่ได้แน่นอนครับ เพราะว่าเนื้อเสียง มิติของเสียงที่ได้จากไมโครโฟนหัวกล้องนั้นไม่ได้ละเอียดขนาดนั้น
ในการต่อไมโครโฟนแยกจากภายนอกนั้นก็เลยเป็นส่วนช่วยอย่างมากสำหรับคนที่ทำคอนเทนต์ ให้ได้เนื้อเสียงที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดของพิธีกร การรับเสียงบรรยากาศโดยรอบที่เหมาะสม และการทำให้เนื้อเสียงพูดในคอนเทนต์เราน่าฟังขึ้นด้วยครับ
สรุปว่าการใช้ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C กับการทำคอนเทนต์ช่วยให้คุณภาพของการบันทึกเสียงของเราดีขึ้นทันทีนั่นเองครับ
เหตุผลที่ 2 : การทำงานกับระบบเสียงง่าย ไม่ซับซ้อน ทั้งการติดตั้งและการตั้งค่า
ส่งต่อมาที่เราต้องคำนึงก็คือไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C นั้นช่วยให้การทำงานมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้นหลายคนจะกลัวเรื่องของระบบเสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟน หรือการติดตั้ง เพราะในสมัยก่อนมันใช้งานค่อนข้างยากและต้องการความเข้าใจที่ซับซ้อนพอสมควร
แต่ในปัจจุบันนี้ไมโครโฟนได้รับการพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายแล้ว อย่างไมโครโฟน Lensgo 348C นั้นสามารถที่จะต่อสายเข้ากับกล้องก็ใช้งานได้ทันที หรือแม้แต่การตั้งค่าระบบเสียง เราก็สามารถปรับได้ง่าย ๆ โดยดูระดับเสียงจากหน้าจอแสดงผลบนไมโครโฟนได้เลย
ซึ่งนั่นทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการทำงานกับเสียงอีกต่อไป และสามารถตั้งค่าได้ง่ายครับ
เหตุผลที่ 3 : รองรับการทำคอนเทนต์ทุกแบบ ทั้งการถ่ายวิดีโอที่มีพิธีกรพูด การสัมภาษณ์ และการทำคอนเทนต์ทั่วไป
อีกหนึ่งเหตุผลที่ช่วยให้คนทำคอนเทนต์วิดีโอสามารถที่จะทำงานได้ง่ายก็คือ ไมโครโฟนตัวนี้รองรับการบันทึกเสียงในคอนเทนต์ทุกแบบเลย ทั้งการทำคอนเทนต์รีวิว หรือคอนเทนต์ต้องมีพิธีกรพูดหน้ากล้อง การทำคอนเทนต์สัมภาษณ์ หรือแม้แต่การทำคอนเทนต์ Vlog ทั่วไป ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C สามารถใช้งานในส่วนนี้ได้ทั้งหมดครับ
เหตุผลที่ 4 : สามารถที่จะต่อไมโครโฟนแยกอื่น ๆ เพิ่มได้ เช่น Lavalier Microphone, Shotgun Microphone และการทำงานร่วมกับ Audio Interface อื่น ๆ
ในกรณีที่การทำงานเราอาจจะต้องการคาแรคเตอร์พิเศษของไมโครโฟนชนิดอื่น ๆ แต่ก็อยากใช้งานแบบไร้สายด้วย เราสามารถที่จะต่อไมโครโฟนแยกอื่น ๆ มาใช้งานร่วมกับตัวส่งสัญญาณของไมโครโฟน Lensgo 348C ได้
ยกตัวอย่างเช่น การใช้ไมโครโฟน Lavalier (ไมโครโฟนแบบติดปกเสื้อ) มาใช้กับไมโครโฟนไร้สาย ซึ่งจะทำให้เราได้เนื้อเสียงพูดที่กระชับมากกว่าเดิม หรือว่าจะเป็นการติดตั้งไมโครโฟนช็อตกันเสริมเข้าไปสำหรับการสัมภาษณ์เราก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งช่วยให้คนที่ผลิตคอนเทนต์สามารถที่จะทำงานได้อย่างหลากหลาย ยืดหยุ่น และตอบโจทย์การทำงานด้านคอนเทนต์ที่แตกต่างกันได้
เหตุผลที่ 5 : ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาไปได้สะดวก
ข้อดีอีกอย่างเลยก็คือ ไมโครโฟนไวเรส Lensgo 348C นั้นสามารถที่จะพกพาได้สะดวก มีกล่องเก็บและเป็นที่ชาร์จในตัวพร้อมกันเลย อีกทั้งมีขนาดที่เล็ก จัดเก็บขนย้ายก็ไปได้ทุกที่ ทำให้คนที่ทำงานด้านคอนเทนต์นั้นไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋าครับ